วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ 


คอมพิวเตอร์คืออะไร
คอมพิวเตอร์ คือ อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ (electrinic device) ที่มนุษย์ใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการจัดการกับข้อมูลที่อาจเป็นได้ ทั้งตัวเลข ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ที่ใช้แทนความหมายในสิ่งต่าง ๆ โดยคุณสมบัติที่สำคัญของคอมพิวเตอร์คือการที่สามารถกำหนดชุดคำสั่งล่วงหน้าหรือโปรแกรมได้ (programmable) นั่นคือคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้หลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับชุดคำสั่งที่เลือกมาใช้งาน ทำให้สามารถนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งานได้อย่างกว้างขวาง เช่น ใช้ในการตรวจคลื่นความถี่ของหัวใจ การฝาก - ถอนเงินในธนาคาร การตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ เป็นต้น ข้อดีของคอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธภาพ มีความถูกต้อง และมีความรวดเร็ว
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นงานชนิดใดก็ตาม เครื่องคอมพิวเตอร์จะมีวงจรการทำงานพื้นฐาน 4 อย่าง (IPOS cycle) คือ
  1. รับข้อมูล (Input) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการรับข้อมูลจากหน่วยรับข้อมูล (input unit) เช่น คีบอร์ด หรือ เมาส์
  2. ประมวลผล (Processing) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการประมวลผลกับข้อมูล เพื่อแปลงให้อยู่ในรูปอื่นตามที่ต้องการ
  3. แสดงผล (Output) เครื่องคอมพิวเตอร์จะให้ผลลัพธ์จากการประมวลผลออกมายังหน่วยแสดงผลลัพธ์ (output unit) เช่น เครื่องพิมพ์ หรือจอภาพ
  4. เก็บข้อมูล (Storage) เครื่องคอมพิวเตอร์จะทำการเก็บผลลัพธ์จากการประมวลผลไว้ในหน่วยเก็บข้อมูล เพื่อให้สามารถนำมาใช้ใหม่ได้ในอนาคต
แสดงขั้นตอนการทำงานพื้นฐานของคอมพิวเตอร์

  • คุณสมบัติของคอมพิวเตอร์
  • ปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่นิยมนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานต่าง ๆ มากมาย ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะคิดว่าคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่สามารถทำงานได้สารพัด แต่ผู้ที่มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์จะทราบว่า งานที่เหมาะกับการนำคอมพิวเตอร์มาใช้อย่างยิ่งคือการสร้าง สารสนเทศ ซึ่งสารสนเทศเหล่านั้นสามารถนำมาพิมพ์ออกทางเครื่องพิมพ์ ส่งผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือจัดเก็บไว้ใช้ในอนาคนก็ได้ เนื่องจากคอมพิวเตอร์จะมีคุณสมบัติต่าง ๆ คือ
    • ความเร็ว (speed) คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันนี้สามารถทำงานได้ถึงร้อยล้านคำสั่งในหนึ่งวินาที
    • ความเชื่อถือ (reliable) คอมพิวเตอร์ทุกวันนี้จะทำงานได้ทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่มีข้อผิดพลาด และไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
    • ความถูกต้องแม่นยำ (accurate) วงจรคอมพิวเตอร์นั้นจะให้ผลของการคำนวณที่ถูกต้องเสมอหากผลของการคำนวณผิดจากที่ควรจะเป็น มักเกิดจากความผิดพลาดของโปรแกรมหรือข้อมูลที่เข้าสู่โปรแกรม
    • เก็บข้อมูลจำนวนมาก ๆ ได้ (store massive amounts of information) ไมโครคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน จะมีที่เก็บข้อมูลสำรองที่มีความสูงมากกว่าหนึ่งพันล้านตัวอักษร และสำหรับระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่จะสามารถเก็บข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งล้าน ๆ ตัวอักษร
    • ย้ายข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกทีหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว (move information) โดยใช้การติดต่อสื่อสารผ่านระบบ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถส่งพจนานุกรมหนึ่งเล่มในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่อยู่ไกลคนซีกโลกได้ในเวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งวินาที ทำให้มีการเรียกเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกันทั่วโลกในปัจจุบันว่า ทางด่วนสารสนเทศ (Information Superhighway)
    ผู้ที่สนใจศึกษาทางด้านคอมพิวเตอร์ จะต้องศึกษาหลักการทำงานพื้นฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรมประยุกต์ต่าง ๆ รวมทั้งจะต้องศึกษาถึงผลกระทบจากคอมพิวเตอร์ต่อสังคมในวันนี้ ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ โดยในแง่บวกนั้นจะมองเห็นได้ง่ายจากสภาพแวดล้อมทั่วไป นั่นคือทำให้สามารถทำงานต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น เริ่มตั้งแต่การจัดเก็บเอกสาร การพิมพ์จดหมาย การจัดทำหนังสือพิมพ์และวารสารต่าง ๆ การฝาก - ถอนเงินในธนาคาร การจ่างเงินซื้อสินค้า ตรวจความผิดปกติของทารกในครรภ์ และในทางการแพทย์อื่น ๆ อีกมากมาย ในแง่ลบก็มีไม่น้อย เช่น
    • โรงงานผลิตอุปกรณ์ของเครื่องคอมพิวเตอร์นั้นต้องใช้สารเคมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้เกิดมลพิษต่าง ๆ มากมาย
    • ผู้ใช้อาจมีอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากการทำงานกับเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ๆ เช่น อาจมีการปวดหลังไหล่ที่เกิดจากการนั่งอยู่หน้าเครื่องนาน ๆ หรืออาจเกิดอาการ Carpal Tunnel Syndrome (CTS) ซึ่งเป็นอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากเส้นประสาทบริเวณข้อมูลถูกกดทับเป็นเวลานาน ๆ โดยอาจเกิดจากการใช้คีย์บอร์ดหรือเมาส์ รวมทั้งอาจมีอันตรายจากรังสีออกมาจากจอคอมพิวเตอร์ด้วย
    • ถ้าคอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาดในระบบที่มีความสำคัญมาก ๆ อาจเป็นอันตรายกับชีวิตมนุษย์ได้ เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ควบคุมการจราจรทางอากาศ เป็นต้น

  • ประเภทของคอมเครื่องคอมพิวเตอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน คือ ไมโครคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีการใช้งานกันมาก ทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน ตลอดจนในสถานศึกษาต่างๆ ไมโครคอมพิวเตอร์เป็นคอมพิวเตอร์ที่มีขนาดเล็ก แต่มีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงกว่าเครื่องขนาดใหญ่ในสมัยก่อนเสียอีก อย่างไรก็ดีแม้ว่าไมโครคอมพิวเตอร์จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ยังมีข้อจำกัดบางประการที่ทำไม่สามารถทำงานที่ใหญ่ และมีความซับซ้อนได้ เช่น งานของระบบธนาคารหรืออุตสาหกรรมซึ้งมีปริมาณมากและมีความซับซ้อนจะเป็นงานที่จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่ทำงานได้ดีกว่าเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์
  • องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์ระบบคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 5 ส่วนด้วยกัน คือ ฮาร์ดแวร์ (Hardware) ซอฟต์แวร์ (Sofeware) บุคลากร (Peopleware) ข้อมูลและสารสนเทศ (Data/Information) และกระบวนการทำงาน (Procedure)

แต่งรูปคนธรรมดาให้ร้องไห้ได้โดย Photoshop

แต่งรูปคนธรรมดาให้ร้องไห้ได้โดย Photoshop

1. เปิดรูปที่ต้องการค่ะ
2. เลือกที่ Brush Tool
3. สร้าง layer ใหม่ขึ้นมาแล้ววาดรูปน้ำตาลงไปค่ะ
4. ตั้งค่า Fille = 0%
จะได้ตามด้านล่างค่ะ
5. double click ที่ layer ที่เราทำน้ำตาไว้ แล้วตั้งค่า Bevel and Emboss ค่ะ
กด OK ก็เป็นอันเสร็จสิ้นแล้วค่ะ

สร้างปกหนังสือด้วย toolที่มีอยู่ใน photoshop

สร้างปกหนังสือด้วย toolที่มีอยู่ใน photoshop

วันนี้เรามีวิธีง่ายๆในการสร้างปกหนังสือบน photoshop มาให้ได้เรียบรู้กันในที่นี้เราจะเอา too lต่างๆที่มีอยู่ในโปรแกรมมาใช้ ซึ่งเหมาะกับคนที่เริ่มต้นในการออกแบบหนังสือและยังไม่ถนัดที่จะใช้ photoshop ซึ่งเราก็จะเอา tool ง่ายๆมาเป็น ideaเริ่มต้นในการสร้างกันนะครับ

สิ่งที่ควรคำนึงถึง
1.สีที่ใช้ต้องเป็สสีที่สร้างอารมณ์สอดคล้องกับเนื้อหา
2.รูปที่อยู่หน้าปกต้องสื่อถึงภาพรวมหรือสดคล้องกับเนื้อหา
3.การสร้างรูปจาก photoshopนั้นเราต้องรู้ขนาดที่เราต้องการที่แน่นอน เนื่องจาก photoshopน้นเป็นแบบ pixel ถ้าขยายหรือย่อรูปอาจไม่สวย ซึ่งจะ
แตกต่างจากการสร้างจาก illustrator นั้นคือเป็นแบบ vector
4.สิ่งที่ต้องมีบนปกคือ ชื่อหนังสือ ชื่อผู้แต่ง และรูปแบบการ design ในข้อนี้แล้วแต่ ideaของแต่ละคนนะครับ
เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
1.สร้าง file ใหม่ขึ้นมาโดยไปที่ file--->new ผมจะยกตัวอย่างเป็นขนาด 19.5*25 cm นะครับ

2.เลือก paint bucket tool--->เลือกสี--->เทสีลงบน background


3.copy รูปที่เราต้องการเาาไว้หน้าปกมาวางที่ background เราสามารถย่อขยาย หมุน รูปได้โดยวิธีการกด ctrl+t เราก็จะสามารถต่อรูปได้ หมุนรูปได้ ลองเล่นดูนะครับ
4.ขั้นตอนนี้เราจะมาตกแต่งรูปภาพแบง่ายๆกัน โดยเลือกทีรูปยางลบ ---> เลือกลักษณะของยางลบ (ขึ้นไปดูที่ด้านบนนะครับจะมีให้กด dropdown เพื่อเลือก)
5.เมื่อเราได้ละกษณะของยางลบแล้ว เราก็จัดการลบขอบของรูปได้เลยครับ หรือใครที่ไม่ต้องการจะลบขอบแต่ต้องการสร้างให้ภาพดูมีมิติ ก็ double clickที่ layerของรูป เลือกที่ drop shadow เราก็จะได้รูปที่ดูมีมิติมากขึ้น
6.เรามาเขียนชื่อหนังสือกันดีกว่า โดยให้กดตัว t ที่ keyboardจากนั้นให้พิมพ์ได้เลยครับ เราจะจัดตำแหน่งของหนังสือได้โดยให้เลือกที่ move tool
แค่นี้เราก็เลื่อนข้อความได้แล้วครับ ถ้าเราต้องการสร้างขอบให้ข้อความก็ double clickที่ text layer เลือก stoke ได้เลยครับ จะสามารถเลือกสีเส้น
เลือกขนาดของเส้นขอบได
เราสามารถเลือกขนาดตัวอักษร รูปแบบตัวอักษรได้จาก tool ตามรูปด้านล่างเลยนะึครับ ถ้าเราเลือกตัวอักษรแบบ smooth จะช่วยทำให้ขอบตัวอักษรดูเรียบเนียนมากขึ้น

7.ต่อไปผมจะเอาข้อความที่ชวนให้ผู้อ่านอยากเข้าไปอ่านมาลงบนหน้าปกครับ เมื่อได้ข้อความแล้วผมก็จัดการสร้างเงาให้ข้อความก็ทำเหมือนกับที่เราจะสร้างให้รูปครับ แต่ทีนี้ผมจะสร้าง
ให้เงามี noise ด้วยครับ เมื่อเราเลือกที่ drop shadow แล้วมาดูตรงช่อง quality ครับจะมีช่องที่สามารถกำหนดความเป็น noiseได้ครับ จากนี้ก็จะใส่ตัวเลข
หรือเลื่อนแทบก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ

8.ต่อไปเรามาตกแต่งหน้าปกแบบง่ายๆกันครับ ผมเลือกใน brush tool ครับ

สร้างข้อความในแบบของการ์ตูนด้วย Photoshop

สร้างข้อความในแบบของการ์ตูนด้วย Photoshop

1. สร้าง file ใหม่ขึ้นมาให้มี backupground เป็นสีดำ จากนั้นให้กด T ที่แป้นพิมพ์ เพื่อเปลี่ยน mode เป็น Text tool แล้วจึงทำการพิมพ์ข้อความที่ต้องการลงไป
2. double click ที่ text layer แล้วทำการตั้งค่า Gradient Overlay
Gradient Overlay ตั้งค่าตามด้านล่างเลยค่ะ
Inner Glow ก็ตั้งค่าตามรูปเช่นกัน
Outer Glow ก็เช่นกันค่ะ ตามรูปด้านล่าง
3. กด Ctrl+E เพื่อทำการรวม layer ที่เป็น background และ text ค่ะ
4. เลือก Filter ---> Artictic ---> Plastic Wrap
ตั้งค่าต่างๆค่ะแล้วก็กดตกลง
5. เลือก image ---> adjustments ---> color balance
ตั้งค่า Color Balance
สำเร็จแล้วค่ะ

สร้างตัวหนังสือแตกๆ ด้วย Photoshop

สร้างตัวหนังสือแตกๆ ด้วย Photoshop

1. สร้างไฟล์ใหม่แล้วกด T ที่แป้นพิมพ์ แล้วทำการพิมพ์ข้อความค่ะ
2. กด Ctrl+J จะได้ layer ใหม่ตามด้านล่างค่ะ
3. Filter ---> Stylize ---> Tiles
ตั้งค่า Number Of Tiles ค่ะ แล้วกด OK
จะได้ตามด้านล่างค่ะ
4. click ขวาที่ layer แรกที่ไม่ใส่ layer ที่เรา copy มา แล้วเืลือก Rasterize Layer
5. จากนั้นให้ click เลือก layer ที่เรา copy มาค่ะ แล้ว เลือก Magic Wand Tool (W) ค่ะ
ทำการเลือกพื้นที่ที่เป็นสีชมพูจะได้ตามด้านล่างค่ะ
6. จากนั้นให้เลือกที่ layer ตามแทบสีฟ้าด้านล่างค่ะ แล้วกด delete ที่แป้นพิมพ์
แล้วเราลองปิดตาที่ layer copy ค่ะ
จะได้ตามด้านล่างค่ะ
7. ทำการตามข้อ 5-6 จนได้รูปตามด้านล่างค่ะ
ตกแต่งให้สวยงามค่ะ

เทคนิคการทำภาพ zoom เข้า zoom ออก

เทคนิคการทำภาพ zoom เข้า zoom ออก

1. สร้างเอกสารขึ้นมาใหม่ ขนาด 310 x 310 โดยไปที่ Modify > Document หรือกดคีย์ลัด (Ctrl+J)

2. ตั้งชื่อ layer 1 เป็น zoom process และ import รูปมาไว้บน stage โดยไปที่ File > Import > Import to Stage หรือกด (Ctrl+R)
3. คลิกที่รูปภาพ กด F8 หรือคลิกขวาที่รูป เลือก convert to symbol เลือกเป็น movie clip ตั้งชื่อว่า picture
4. ตั้งชื่อ Instance Name ของ movie clip ที่ชื่อว่า picture ว่า zoom
5. ดับเบิ้ลคลิกที่ movie clip ชื่อว่า picture ที่สร้างขึ้นมา หลังจากนั้น ไปยังเฟรมที่ 10 กด F6 เพื่อ insert keyframe หลังจากนั้น กด F9 เพื่อใส่ action script ลงไป ดังนี้

stop();
6. กลับไปยังเฟรมที่ 1 แล้วใช้เครื่องมือ Free Transform Tool หรือกด (Q) และย่อรูปให้เล็กลง
7. คลิกขวาที่ frame 1 เลือก create motion tween
8. กลับไปที่ scene หลัก แล้วสร้าง layer ใหม่ ตั้งชื่อว่า button +
9. ใช้เครื่องมือ Text Tool หรือกด (T) พิมพ์คำว่า + zoom ลงไป หลังจากนั้นคลิกขวาที่ text เลือก convert to symbol เลือกเป็น button ตั้งชื่อว่า zoom ดังรูป
10. หลังจากนั้น คลิกขวาที่ ปุ่มที่สร้างขึ้นมา เลือก action script หรือ กด F9 ใส่ action script ลงไปดังนี้
on (release) {
_root.mouse_over_zoom = true;
}

11. ใช้เครื่องมือ Text Tool หรือกด (T) พิมพ์คำว่า - zoom ลงไป หลังจากนั้นคลิกขวาที่ text เลือก convert to symbol เลือกเป็น button ตั้งชื่อว่า zoom out ดังรูป
12. หลังจากนั้น คลิกขวาที่ ปุ่มที่สร้างขึ้นมา เลือก action script หรือ กด F9 ใส่ action script ลงไปดังนี้
on (release) {
_root.mouse_over_zoom = fstartlse;
}
13. สุดท้าย สร้าง layer ขึ้นมาใหม่ ตั้งชื่อว่า action คลิกที่เฟรมแรก กด F9 แล้วใส่ action script ลงไปดังนี้

_root.zoom.onEnterFrame = function() {
if (mouse_over_zoom) {
_root.zoom.nextFrame();
} else {
_root.zoom.prevFrame();
}
};


14. ทดสอบ ด้วยการกด Ctrl+Enter